สารบัญเว็บไซต์

สารบัญเว็บไซต์ !

รูปแบบที่ใช้ทำกำไรจาก forex

       ในโลกของเรากำลังเผชิญกับความวุ่นวายต่างๆนานา ค่าเงินตกต่ำค่าน้ำมันลดลง แต่มีเพียงอย่างเดียวกลับพุ่งสูงขึ้นนั่นคือทองคำ แน่นอนราคาทองคำเป็นสิ่งที่ผันผวนอยู่ตลอดเวลา แต่การผันผวนของมัน มีรูปแบบที่ซ่อนอยู่ หากเราทุกคนหรือใครก็ตามที่มองรูปแบบนี้ได้เราจะเป็นผู้ชนะในการทำกำไรในตลาด forex ซึ่งเราจะรู้ล่วงหน้าได้ทันทีว่าจากนี้ไปทองจะขึ้นหรือทองจะลง
      จากนี้ไปเราจะมาพบกับรูปแบบการทำกำไรในตลาด forex ซึ่งผมจะเน้นไปที่ทองคำเพราะทองคำมีการผันผวนอยู่ตลอดเวลามากกว่าค่าเงินทุกๆกลุ่ม
รูปแบบที่ผมใช้บ่อยที่สุดนั่นคือรูปแบบสามเหลี่ยมเรามาดูกันว่ามันมีรูปแบบสามเหลี่ยมใดบ้าง






      ทั้งหมดนี้เป็นแค่ตัวอย่างส่วนหนึ่งที่ได้มาจากกราฟทองคำของจริง จะสังเกตเห็นได้ว่าเมื่อไหร่ก็ตามที่กราฟหลุดจากแนวต้านเส้นบนขึ้นไป แปลว่ากราฟจะขึ้นหรือทองคำจะขึ้นนั้นเอง แต่ถ้าเมื่อไหร่ก็ตามที่กราฟหลุดจากเส้นล่างหรือเส้นแนวรับลงมาก็แปลว่าทองกำลังจะลง
**(การแคปภาพหน้าจอทั้งหมดเป็นช่วงที่ทองคำกำลังจะขึ้น)
     นอกจากนี้ยังมีรูปแบบสามเหลี่ยมอย่างอื่นอีกมากมายและก็ยังมีรูปแบบที่ใช้ทำกำไรในรูปแบบอื่นอีกมากมายเช่นเดียวกัน ติดตามดูในโพสตรั้งต่อไปนะครับว่าผมจะนำรูปแบบทองคำและรูปแบบใดบ้างมาแชร์ให้ทุกคนได้ดูกัน.
  ขอบคุณครับ




     

เรื่องราวข้อคิดดีๆ

       วันนี้ผมมีเรื่องราวข้อคิดดีๆ ของชีวิตมาให้ทุกท่านได้อ่านกัน คือหลังจากที่ผมได้อ่านแล้วรู้สึกว่ามันมีความหมายที่ดีต่อการดำเนินชีวิตร่วมกัน จึงอยากนำมาเผยแพร่ให้ทุกคนได้อ่านกันเยอะๆ
       ชายจีนคนหนึ่งแบกถังน้ำสองใบไว้บนบ่า....
เพื่อไปตักน้ำที่ริมลำธาร ถังน้ำใบหนึ่ง
มีรอยแตก ในขณะที่อีกใบหนึ่งไร้รอยตำหนิ
และสามารถบรรจุน้ำกลับมาได้เต็มถัง
แต่ด้วยระยะทางอันยาวไกล จากลำธารกลับสู่บ้าน
จึงทำให้น้ำที่อยู่ในถังใบที่มีรอยแตกเหลืออยู่เพียงครึ่งเดียว
.........
หลังจากเวลา 2 ปี ที่ถังน้ำที่มีรอยแตก
มองว่าเป็นความล้มเหลวอันขมขื่น
วันหนึ่งที่ข้างลำธาร มันได้พูดกับคนตักน้ำว่า
'ข้ารู้สึกอับอายตัวเองเป็นเพราะรอยแตก
ที่ด้านข้างของตัวข้า ทำให้น้ำที่อยู่ข้างในไหลออกมา
ตลอดเส้นทางที่กลับไปยังบ้านของท่าน'
คนตักน้ำตอบว่า
'เจ้าเคยสังเกตหรือไม่ว่ามีดอกไม้เบ่งบาน
อยู่ตลอดเส้นทางในด้านของเจ้า
แต่กลับไม่มีดอกไม้อยู่เลยในอีกด้านหนึ่ง
เพราะข้ารู้ว่าเจ้ามีรอยแตกอยู่
ข้าจึงได้หว่านเมล็ดพันธุ์ดอกไม้
ลงข้างทางเดินด้านของเจ้า
และทุกวันที่เราเดินกลับ ...
เจ้าก็เป็นผู้รดน้ำให้กับเมล็ดพันธุ์เหล่านั้น
.........
เป็นเวลา 2 ปี ที่ข้าสามารถที่จะเก็บดอกไม้
สวยๆ เหล่านั้นกลับมาแต่งโต๊ะกินข้าว
ถ้าหากปราศจากเจ้าที่เป็นเจ้าแบบนี้แล้ว ...
เราก็คงไม่อาจได้รับความสวยงามแบบนี้ได้
.........
คนเราแต่ละคนย่อมมีข้อบกพร่อง
ที่เป็นเอกลักษณ์ของตัวเอง แต่รอยตำหนิ
และข้อบกพร่องที่เราแต่ละคนมีนั้น
อาจช่วยทำให้การอยู่ร่วมกันของเราน่าสนใจ
และกลายเป็นบำเหน็จรางวัลของชีวิตได้
.........
สิ่งที่ต้องทำก็เพียงแค่ยอมรับคนแต่ละคน
ในแบบที่เขาเป็น และมองหาสิ่งที่ดีที่สุด
ในตัวของพวกเขาเหล่านั้นเท่านั้นเอง
มองโลกหลายๆ ด้าน เพราะคนเราไม่ได้มี
แต่ข้อเสียเท่านั้น.

อ่านเรื่องราวข้อคิดดีๆนี้จบแล้วรู้สึกอย่างไรกันบ้างครับ

-------------------------------------------------------------------------------------
ที่มา: ฟอร์เวิร์ดเมล
ห้องสมุดออนไลน์ / คริสเตียน


ถ้าซ้ำหรือเคยอ่านแล้วขออภัย

เริ่มทำอาชีพเสริมขั้นที่6

       การเริ่มทำอาชีพเสริมในขั้นตอนที่6 นี้จะพูดถึงเรื่องการฝึกสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น คนที่เคยทำงานประจำหรือที่ตอนนี้กำลังทำงานประจำอยู่ คงพบว่าในที่ทำงานเราจะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบอยู่ด้วย นั่นถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ทว่าหากคุณคิดที่จะเริ่มทำอาชีพเสริมหรือว่าจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองแล้ว ความคิดที่ว่าไม่อยากจะสร้างสัมพันธภาพกับใครๆนั้น ต้องเลิกคิดไปได้เลยครับ
       ความคิดที่จะไม่อยากสร้างสัมพันธภาพกับใครๆนั้น คุณคงทำไม่ได้อีกแล้วเพราะมันจะเป็นอุปสรรคสำคัญสกัดกั้นความสำเร็จอย่างยิ่ง คุณต้องเริ่มปรับเปลี่ยนตัวเองเป็นการใหญ่ทีเดียว แต่ถ้าคนที่มีสัมพันธภาพที่ดีกับคนรอบตัวอย่างง่ายๆอยู่แล้วก็ถือเป็นเรื่องที่ดีและก็ควรปฏิบัติให้มากขึ้นกว่าเดิม
      การเริ่มต้นทำอาชีพเสริมขั้นที่ 6 นี้คุณต้องเป็นผู้ให้ที่ดีและมากขึ้นเท่าที่จะทำได้
       ธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ชอบที่จะรับมากกว่าให้ ปรัชญาของนักธุรกิจที่ประสบคงามสำเร็จทั้งหลายจึงบอกว่า "ผู้ที่ให้ย่อมได้รับการตอบแทนเสมอ" เมื่อให้คนอื่น คนอื่นถุงจะยอมมาเสวนาด้วย และในขณะเดียวกันที่คุณกำลังเป็นฝ่ายให้ผู้อื่น ตนเองก็กำลังได้รับการช่วยเหลือทางอ้อมรวมถึงอนาคตก็เป็นได้  คนที่ปนะกอบธุรกิจหรือมีอาชีพที่ก้าวหน้าได้ดี คือคนที่ หมุนเงินเป็น คือการไหลเวียนจากจุดหนึ่วไปยังอีกจุดหนึ่ง แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เห็นแก่ได้ หรือพยายามเก็บเอาทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับตัว เท่ากับว่าคุณทำให้การไหลเวียนของเงินสะดุดลง และสุดท้ายมันจะตัน ทำให้โอกาสที่เงินจะไหลกลับมามียากยิ่งขึ้น
       วิธีเดียวที่จะทำให้เงิน ธุรกิจ เพื่อน หรืออะไรก็ตามที่คุณปรารถนาหมุนกลับมาหาคุณ คุณต้องทำตัวใหีเป็นคนใจกว้าง ใส่ใจกับเรื่องคนอืนให้พอเหมาะ แม้แต่คุณเองที่ไปซื้อของหรือว่าไปใช้บริการจากที่ใดก็ตาม ก็ควรจ่ายเงินให้ผู้บริการอย่างเหมาะสม รวมไปถึงสนับสนุนองค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือสังคมบ้าง ลองสังเกตจากเรื่องเล็กก่อนก็ได้ครับ ถ้าหากเช้าวันไหนคุณได้ใส่บาตรพระตอนเช้า คุณจะรู้สึกอิ่มเอิบ สบายใจ แต่ถ้าวันไหนที่ไม่ได้ใส่ มันจะรู้สึกไม่เหมือนกับวันที่ใส่ นั่นแหละครับ คือผลของการให้และผลของการที่ไม่ได้ให้ ความรู้สึกและสิ่งที่ได้รับมันะต่างกัน บางคนอาจถึงขั้นไม่สบายใจเลยก็มีครับ
       การออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่หรือการพยายามเปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อจะร่ำรวยก็เช่นกัน ไม่ได้สำคัญว่าตอนนีืคุณจะมีเงินหรือทรัย์สินมากสักเท่าไหร่ก็ตาม ขอให้รู้จีกการเป็นฝ่ายให้ก่อน และเมื่อได้ให้อะไรใครไปแล้วก็อย่ามานั่งคิดเสียดายนะครับ เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่าคุณทำอะไรลงไป สรุปก็คือ การเริ่มต้นทำอาชีพเสริมขั้นที่ 6 นี้จะเน้นให้สร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่นด้วยเริ่มเป็นผู้ให้ ธรรมชาติของให้คือ ยิ่งให้จะยิ่งได้รับ เชื่อเถอะครับว่าผลลัพธ์ของการให้มันน่าอัศจรรย์มากกว่าที่คุณคาดคิดไว้ก็เป็นได้




----------------------------------------------------------------------------------------
     

เริ่มต้นทำอาชีพเสริมขั้นที่ 3

        การเริ่มต้นทำอาชีพเสริมขั้นที่ 3 นี้ผมจะนำเสนอทีเดียวเลยอีก 3 ขั้นที่เหลือนะครับ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาในการค้นหาข้อมูล ในขั้นตอนที่ 4 นี้จะพูดถึงเรื่องความเสมอต้นเสมอปลาย ทำอะไรแล้วต้องทำให้ต่อเนื่อง อย่าทำแบบทิ้งขว้าง รวมถึงน้ำใจไมตรีที่มีให้กันก็ควรจะรักษาไว้อย่างต่อเนื่อง 
       การเริ่มต้นทำอาชีพเสริมขั้นตอนที่ 3 จะเน้นเรื่องความเสมอต้นเสมอปลายครับ ทำอะไรแล้วต้องทำจริง ทำอย่างต่อเนื่อง ถ้าตอนที่คุณยังทำงานประจำเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ เคยยิ้มแย้มแจีมใสและเป็นมิตรอย่างไร แม้สถานภาพคุณอาจจะเปลี่ยนไปแล้วในตอนนี้แต่จิตใจของคุณไม่ควรเปลี่ยนไปตามสภาวะนอกง่ายๆ ไม่ใช่แจ่เพียงการพูดจาและยกย่องชื่นชมคนอื่นในยามที่ตนเองเดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น เวลาปกติที่ไม่มีธุระอะไร หรือไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใคร ก็ต้องรักษาสภาพจิตใจและไมตรีให้คงอยู่ตลอด อย่าได้ทำกันแบบว่าเดินสวนกันก็ทำเป็นเฉยเมย หรือเวลาอารมณ์ไม่ดี เจอหน้าก็ไม่ยิ้มแย้ม ไม่ทักทาย แต่พออารมณ์ดีจะพูดหวานมาแต่ไกล การกระทำเช่นนี้คนรอบจะเห็นคุณเป็นคนไม่สม่ำเสมอ เป็นคนลักปิดลักเปิด และไม่แน่ใจว่าจะมาอารมณ์ไหน ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีที่คุณจะเอาชนะใจของใครได้ และการทำงานก็อาจจะประสบปัญหามากขึ้นในอนาคตเพราะไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย เพราะฉะนั้น ควรหัดเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลายเอาไว้ตลอดเวลานะครับ เพื่ออนาคตที่ดีกับตัวคุณเอง
       การเริ่มทำอาชีพเสริมในขั้นตอนที่ 4 ผมอยากจะบอกว่า ควรหาความรู้ใส่ตัวอยู่สม่ำเสมอเช่นกันครับ
       เพราะในขณะที่คุณกำลังจะริเริ่มทำอะไรใหม่ๆ คุณจะมีความรู้สึกสบายมากขึ้นที่มีความ้ป็นอิสระ แต่คุณก็ไมีอาจทำงานแบบ เช้าชามเย็นชาม ได้อีกต่อไป เพราะ ความรู้ เป็นสิ่วสำคัญมาก สำหรับการเริ่มต้นใหม่ จากที่ไม่เคยคิดจะหาความรู้ใหม่ ตอนนี้ก็น่าจะถึงเวลาที่จะลุกขึ้นมาใส่ใจกับสิ่งรอบตัวใหัมากขึ้น เพราะการเป็นคนที่รอบรู้ในเรื่องต่างๆ ที่อยู่รอบตัว รู้จริง รู้กว้างและลึกซึ้งจะทำให้คนที่อยู่รอบตัวรู้สึกชื่นชม และใครๆต่างก็อยากจะมาให้คุณเป็นที่ปรึกษาอยู่เสมอ และเมื่อถึงเาที่คุณต้องการความช่วยเหลือบ้าง คนรอบข้างก็พรัอมะให้ความช่วยเหบือเช่นกัน
       การเริ่มทำอาชีพเสริมขั้นที่ 5 ผมจะพูดถึงเรื่องการเป็นคนตรงต่อเวลา
      คุณสมบัติข้อนี้ยังเป็นข้อด้อยของคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนไทที่ไม่ค่อยจะมีวินัยในเรื่องของเวลา และแต่ละองค์กรก็ให้ก็ให้ความสำคัญของเวลาที่แตกต่างกันออกไป หากคุณเคยอยู่ในอวค์กรที่ไม่ค่อยรักษาเวลา คุณก็จะกลายเป็นคนที่ไม่รักษาเวลาไปโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าได้รับการฝึกให้ตรงต่อเวลาอยู่เสมอจนเป็นนิสัยก็นับว่าคุณโชคดีที่ได้อยู่องค์กรรแบบนั้น การรักษาเวลาจึงถือเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเวลาที่เสียไปแล้วไม่สามารถนำกลับคืนมาได้ หากตอนนี้คุณยังไม่ตรงต่อเวลา ก็ควรเริ่มฝึกตั้งแต่วันนี้เพราะมันจะมีผลต่อการที่ตุณจะทำอาชีพเสริม และพัฒนาต่อยอดไปเป็นเจ้าของกิจการ ลองนึกดูนะครับว่า หากคุณเป็นเจ้าของกิจการ แต่ไม่มีความตรงต่อเวลา ไม่รักษาเวลา คุณก็ไม่สามารถที่จะออกคำสั่งให้ลูกน้องมาทำงานให้ตรงต่อเวลาได้อย่างเต็มปากเต็มคำ มีแต่จะโดนลูกน้องสวนกลับซะมากกว่า
       การฝึกความตรงต่อเวลาจะทำให้คนรอบข้างไม่ต้องมาเสียเวลาเพราะคุณ การนัดหมายทั้งในเรื่องสำคัญและเรื่องส่วนตัวก็ไม่เคยล่าช้า เหล่ายี้จะทำให้คุณได้รับการยอมรับนับถือ นั่นเป็นเพราะว่า การตรงต่อเวลาแสดงถึงว่าเราให้ความสำคัญกับผู้อื่นและเป็นการให้เกียรติคนอื่นอย่างมากมายอีกด้วยครับ
       การเริ่มต้นทำอาขีพเสริมขั้นที่ 3 ขั้นที่ 4 และ 5 นี้ คือพื้นฐานของการเป็นเจ้าของกิจการ เจ้าของบริษัทด้วยเช่นกัน หากคุณมีพื้นฐานเหล่านี้อยู่ในตัวเอง ก็จะเป็นที่น่านับถือ น่าไว้วางใจจากผู้คนที่ได้พบเห็นและรู้จัก ซึ่งก็จะส่งผลให้คุณประสบความสำเร็จในอาชีพเสริมได้เช่นกัน




------------------------------------------------------------------------------------------