สารบัญเว็บไซต์

สารบัญเว็บไซต์ !

เริ่มทำอาชีพเสริมขั้นที่6

       การเริ่มทำอาชีพเสริมในขั้นตอนที่6 นี้จะพูดถึงเรื่องการฝึกสร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่น คนที่เคยทำงานประจำหรือที่ตอนนี้กำลังทำงานประจำอยู่ คงพบว่าในที่ทำงานเราจะมีทั้งคนที่ชอบและไม่ชอบอยู่ด้วย นั่นถือว่าเป็นเรื่องปกติ แต่ทว่าหากคุณคิดที่จะเริ่มทำอาชีพเสริมหรือว่าจะมีธุรกิจเป็นของตัวเองแล้ว ความคิดที่ว่าไม่อยากจะสร้างสัมพันธภาพกับใครๆนั้น ต้องเลิกคิดไปได้เลยครับ
       ความคิดที่จะไม่อยากสร้างสัมพันธภาพกับใครๆนั้น คุณคงทำไม่ได้อีกแล้วเพราะมันจะเป็นอุปสรรคสำคัญสกัดกั้นความสำเร็จอย่างยิ่ง คุณต้องเริ่มปรับเปลี่ยนตัวเองเป็นการใหญ่ทีเดียว แต่ถ้าคนที่มีสัมพันธภาพที่ดีกับคนรอบตัวอย่างง่ายๆอยู่แล้วก็ถือเป็นเรื่องที่ดีและก็ควรปฏิบัติให้มากขึ้นกว่าเดิม
      การเริ่มต้นทำอาชีพเสริมขั้นที่ 6 นี้คุณต้องเป็นผู้ให้ที่ดีและมากขึ้นเท่าที่จะทำได้
       ธรรมชาติของคนส่วนใหญ่ชอบที่จะรับมากกว่าให้ ปรัชญาของนักธุรกิจที่ประสบคงามสำเร็จทั้งหลายจึงบอกว่า "ผู้ที่ให้ย่อมได้รับการตอบแทนเสมอ" เมื่อให้คนอื่น คนอื่นถุงจะยอมมาเสวนาด้วย และในขณะเดียวกันที่คุณกำลังเป็นฝ่ายให้ผู้อื่น ตนเองก็กำลังได้รับการช่วยเหลือทางอ้อมรวมถึงอนาคตก็เป็นได้  คนที่ปนะกอบธุรกิจหรือมีอาชีพที่ก้าวหน้าได้ดี คือคนที่ หมุนเงินเป็น คือการไหลเวียนจากจุดหนึ่วไปยังอีกจุดหนึ่ง แต่ถ้าคุณเป็นคนที่เห็นแก่ได้ หรือพยายามเก็บเอาทุกสิ่งทุกอย่างไว้กับตัว เท่ากับว่าคุณทำให้การไหลเวียนของเงินสะดุดลง และสุดท้ายมันจะตัน ทำให้โอกาสที่เงินจะไหลกลับมามียากยิ่งขึ้น
       วิธีเดียวที่จะทำให้เงิน ธุรกิจ เพื่อน หรืออะไรก็ตามที่คุณปรารถนาหมุนกลับมาหาคุณ คุณต้องทำตัวใหีเป็นคนใจกว้าง ใส่ใจกับเรื่องคนอืนให้พอเหมาะ แม้แต่คุณเองที่ไปซื้อของหรือว่าไปใช้บริการจากที่ใดก็ตาม ก็ควรจ่ายเงินให้ผู้บริการอย่างเหมาะสม รวมไปถึงสนับสนุนองค์กรการกุศลเพื่อช่วยเหลือสังคมบ้าง ลองสังเกตจากเรื่องเล็กก่อนก็ได้ครับ ถ้าหากเช้าวันไหนคุณได้ใส่บาตรพระตอนเช้า คุณจะรู้สึกอิ่มเอิบ สบายใจ แต่ถ้าวันไหนที่ไม่ได้ใส่ มันจะรู้สึกไม่เหมือนกับวันที่ใส่ นั่นแหละครับ คือผลของการให้และผลของการที่ไม่ได้ให้ ความรู้สึกและสิ่งที่ได้รับมันะต่างกัน บางคนอาจถึงขั้นไม่สบายใจเลยก็มีครับ
       การออกมาเริ่มต้นชีวิตใหม่หรือการพยายามเปลี่ยนแปลงชีวิตเพื่อจะร่ำรวยก็เช่นกัน ไม่ได้สำคัญว่าตอนนีืคุณจะมีเงินหรือทรัย์สินมากสักเท่าไหร่ก็ตาม ขอให้รู้จีกการเป็นฝ่ายให้ก่อน และเมื่อได้ให้อะไรใครไปแล้วก็อย่ามานั่งคิดเสียดายนะครับ เพราะคุณรู้อยู่แล้วว่าคุณทำอะไรลงไป สรุปก็คือ การเริ่มต้นทำอาชีพเสริมขั้นที่ 6 นี้จะเน้นให้สร้างสัมพันธภาพกับผู้อื่นด้วยเริ่มเป็นผู้ให้ ธรรมชาติของให้คือ ยิ่งให้จะยิ่งได้รับ เชื่อเถอะครับว่าผลลัพธ์ของการให้มันน่าอัศจรรย์มากกว่าที่คุณคาดคิดไว้ก็เป็นได้




----------------------------------------------------------------------------------------
     

เริ่มต้นทำอาชีพเสริมขั้นที่ 3

        การเริ่มต้นทำอาชีพเสริมขั้นที่ 3 นี้ผมจะนำเสนอทีเดียวเลยอีก 3 ขั้นที่เหลือนะครับ เพื่อจะได้ไม่เสียเวลาในการค้นหาข้อมูล ในขั้นตอนที่ 4 นี้จะพูดถึงเรื่องความเสมอต้นเสมอปลาย ทำอะไรแล้วต้องทำให้ต่อเนื่อง อย่าทำแบบทิ้งขว้าง รวมถึงน้ำใจไมตรีที่มีให้กันก็ควรจะรักษาไว้อย่างต่อเนื่อง 
       การเริ่มต้นทำอาชีพเสริมขั้นตอนที่ 3 จะเน้นเรื่องความเสมอต้นเสมอปลายครับ ทำอะไรแล้วต้องทำจริง ทำอย่างต่อเนื่อง ถ้าตอนที่คุณยังทำงานประจำเป็นมนุษย์เงินเดือนอยู่ เคยยิ้มแย้มแจีมใสและเป็นมิตรอย่างไร แม้สถานภาพคุณอาจจะเปลี่ยนไปแล้วในตอนนี้แต่จิตใจของคุณไม่ควรเปลี่ยนไปตามสภาวะนอกง่ายๆ ไม่ใช่แจ่เพียงการพูดจาและยกย่องชื่นชมคนอื่นในยามที่ตนเองเดือดร้อนหรือต้องการความช่วยเหลือเท่านั้น เวลาปกติที่ไม่มีธุระอะไร หรือไม่ต้องการความช่วยเหลือจากใคร ก็ต้องรักษาสภาพจิตใจและไมตรีให้คงอยู่ตลอด อย่าได้ทำกันแบบว่าเดินสวนกันก็ทำเป็นเฉยเมย หรือเวลาอารมณ์ไม่ดี เจอหน้าก็ไม่ยิ้มแย้ม ไม่ทักทาย แต่พออารมณ์ดีจะพูดหวานมาแต่ไกล การกระทำเช่นนี้คนรอบจะเห็นคุณเป็นคนไม่สม่ำเสมอ เป็นคนลักปิดลักเปิด และไม่แน่ใจว่าจะมาอารมณ์ไหน ถ้าเป็นอย่างนี้ก็ไม่มีที่คุณจะเอาชนะใจของใครได้ และการทำงานก็อาจจะประสบปัญหามากขึ้นในอนาคตเพราะไม่มีใครอยากร่วมงานด้วย เพราะฉะนั้น ควรหัดเป็นคนที่เสมอต้นเสมอปลายเอาไว้ตลอดเวลานะครับ เพื่ออนาคตที่ดีกับตัวคุณเอง
       การเริ่มทำอาชีพเสริมในขั้นตอนที่ 4 ผมอยากจะบอกว่า ควรหาความรู้ใส่ตัวอยู่สม่ำเสมอเช่นกันครับ
       เพราะในขณะที่คุณกำลังจะริเริ่มทำอะไรใหม่ๆ คุณจะมีความรู้สึกสบายมากขึ้นที่มีความ้ป็นอิสระ แต่คุณก็ไมีอาจทำงานแบบ เช้าชามเย็นชาม ได้อีกต่อไป เพราะ ความรู้ เป็นสิ่วสำคัญมาก สำหรับการเริ่มต้นใหม่ จากที่ไม่เคยคิดจะหาความรู้ใหม่ ตอนนี้ก็น่าจะถึงเวลาที่จะลุกขึ้นมาใส่ใจกับสิ่งรอบตัวใหัมากขึ้น เพราะการเป็นคนที่รอบรู้ในเรื่องต่างๆ ที่อยู่รอบตัว รู้จริง รู้กว้างและลึกซึ้งจะทำให้คนที่อยู่รอบตัวรู้สึกชื่นชม และใครๆต่างก็อยากจะมาให้คุณเป็นที่ปรึกษาอยู่เสมอ และเมื่อถึงเาที่คุณต้องการความช่วยเหลือบ้าง คนรอบข้างก็พรัอมะให้ความช่วยเหบือเช่นกัน
       การเริ่มทำอาชีพเสริมขั้นที่ 5 ผมจะพูดถึงเรื่องการเป็นคนตรงต่อเวลา
      คุณสมบัติข้อนี้ยังเป็นข้อด้อยของคนส่วนใหญ่ โดยเฉพาะคนไทที่ไม่ค่อยจะมีวินัยในเรื่องของเวลา และแต่ละองค์กรก็ให้ก็ให้ความสำคัญของเวลาที่แตกต่างกันออกไป หากคุณเคยอยู่ในอวค์กรที่ไม่ค่อยรักษาเวลา คุณก็จะกลายเป็นคนที่ไม่รักษาเวลาไปโดยอัตโนมัติ แต่ถ้าได้รับการฝึกให้ตรงต่อเวลาอยู่เสมอจนเป็นนิสัยก็นับว่าคุณโชคดีที่ได้อยู่องค์กรรแบบนั้น การรักษาเวลาจึงถือเรื่องที่สำคัญมาก เพราะเวลาที่เสียไปแล้วไม่สามารถนำกลับคืนมาได้ หากตอนนี้คุณยังไม่ตรงต่อเวลา ก็ควรเริ่มฝึกตั้งแต่วันนี้เพราะมันจะมีผลต่อการที่ตุณจะทำอาชีพเสริม และพัฒนาต่อยอดไปเป็นเจ้าของกิจการ ลองนึกดูนะครับว่า หากคุณเป็นเจ้าของกิจการ แต่ไม่มีความตรงต่อเวลา ไม่รักษาเวลา คุณก็ไม่สามารถที่จะออกคำสั่งให้ลูกน้องมาทำงานให้ตรงต่อเวลาได้อย่างเต็มปากเต็มคำ มีแต่จะโดนลูกน้องสวนกลับซะมากกว่า
       การฝึกความตรงต่อเวลาจะทำให้คนรอบข้างไม่ต้องมาเสียเวลาเพราะคุณ การนัดหมายทั้งในเรื่องสำคัญและเรื่องส่วนตัวก็ไม่เคยล่าช้า เหล่ายี้จะทำให้คุณได้รับการยอมรับนับถือ นั่นเป็นเพราะว่า การตรงต่อเวลาแสดงถึงว่าเราให้ความสำคัญกับผู้อื่นและเป็นการให้เกียรติคนอื่นอย่างมากมายอีกด้วยครับ
       การเริ่มต้นทำอาขีพเสริมขั้นที่ 3 ขั้นที่ 4 และ 5 นี้ คือพื้นฐานของการเป็นเจ้าของกิจการ เจ้าของบริษัทด้วยเช่นกัน หากคุณมีพื้นฐานเหล่านี้อยู่ในตัวเอง ก็จะเป็นที่น่านับถือ น่าไว้วางใจจากผู้คนที่ได้พบเห็นและรู้จัก ซึ่งก็จะส่งผลให้คุณประสบความสำเร็จในอาชีพเสริมได้เช่นกัน




------------------------------------------------------------------------------------------

เริ่มทำอาชีพเสริมขั้นที่ 2

       การเริ่มต้นทำอาชีพเสริมขั้นที่ 2 นี้จะเป็นเรื่องราวที่ต่อจาก การเริ่มทำอาชีพเสริมขั้นที่ 1 นะครับ ซึ่งในขั้นที่ 2 นี้ก็คือ จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับการ "ปรับทัศนคติ" คำวีา ทัศนคติ เป็นเพียงความรู้สึกนึกคิด ที่ถูกปรุงแต่งอละเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา ขึ้นอยู่กับสมองของเราว่าจะบังคับบงการ ไม่ว่าจะอยู่สภาวะเช่นไรนั่นเองครับ
       หากเรายังเป็นพนักงานหรืแลูกจ้างที่มีความเป็น "มืออาชีพ" เราก็จะลงมือลงแรงทำงานนั้นอย่างเต็มความสามารถด้วยแนวคิดของึวามเป็นเจ้าของกิจการ ที่อยากจะพัฒนาทักษะและความสามารถเดิมของตัวเองให้ดีขึ้นอยู่ตลอดเวลา
       หากเป็นองค์กรแล้ว องค์กรใดก็ตามที่ได้ลูกจ้างมืออาชีพแบบนี้ก็มีกจะมีแววรุ่งแน่นอนครับ และถ้าหากรู้วิธีสนับสนุนและสามารถดึงศักยภาพของพวกเขาออกมาใช้ได้อย่างเต็มที่ รับรองว่าองค์นั้นจะประสบความสำเร็จได้ไม่ยาก
       สำหรับคนที่เป็นเจ้าของกิจการแล้ว ก็จะมีแนวคิดแบบมุมกลับ เหมือนพนักงานที่รับเงินเดือนทั่วๆไปคือ เดือนไหนได้มากก็ทำมาก เดือนไหนได้น้อยก็น้อน เดือนไหนขาดทุนก็ไม่ทำ แบบนีจ้ถึงจะมีกิจการเป็นของตัวเองแต่ก็ไม่มีวันเจริญรุ่งเรือง มีแต่จะถดถอยลงไปเรื่อยๆแน่นอนครับ. หลายองค์กรจึงพยายามปลูกฝังแนวคิดให้พนักงานรักบริษัทให้เหมือนกับว่าตัวเองเป็นเจ้าของ หากในการปลูกฝังจิตสำนึกในเรื่องนี้ทำได้ไม่วำเร็จ เจ้าของกิจการบางคยก็ใช้วิธีการ แบ่งหุ้นให้ลูกจ้างเลยก็มีครับ
       ถึงอย่างไรก็ตามความเป็นเจ้าของกิจการ หรือเจัาของธุรกิจสามารถเริ่มต้นได้ตลอดเวลา เพราะการเกิดของธุรกิจและกิจการใหม่ๆไม่ได้ขึ้นอยู่กับสภาวะของเศรษฐกิจเพียงอย่างเดียว แต่ขุ้นอยู่กับการปรับทัศนคติของตัวเอง นั่นเองครับ การปรับทัศนคติที่ดี จึงถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุด ถ้าหากเราสามารถปรับทัศนคติได้ต่อทุกสภาวะ ก็เหมือนกับว่าเราสามารถปรับตัวเข้าหาผู้อื่นและสถานการณ์ในปัจจุบันได้เป็นอย่างดี
       การเริ่มต้นทำอาชีพเสริมขั้นที่ 2 นี้จะเน้นไปในเรื่องของการปรับทัศนคติ เพราะการจะคิดเริ่มต้นเป็น "เถ้าแก่" มืออาชีพแล้ว ก็ต้องรีบลงมือทำทันที เพราะความจริงที่น่าประหลาดอยู่ข้อหนึ่งคือ ทัศนคติ มันมักจะไม่อยู่กับใครนานๆหรอกครับ มันจะเป็นช่วงๆแล้วก็จะหายไป ทัศนคติที่ดีเท่านั้นที่จะเป็นจุดเริ่มต้นของคุณเแงในทุกอย่าง
        สุดท้ายนี้ผมมีคำแนะอีกอย่างหนึ่งครับเกี่ยวการเริ่มต้นทำอาชีพเสริมขั้นที่ 2นี้ คือ คนที่คิดจะเริ่มต้นทำอะไรซักอย่างในสิ่งใหม่ๆ คุณต้องพยายามหลีกเลี่ยงอย่าอยู่ใกล้กับคนที่ชอบคิดลบ หรือมีทัศนคติลบเพราะมันจะทำให้คุณคิดในแง่ลบตามได้วย ซึ่งจะนำไปสู่ความล้มเหลวครับ







------------------------------------------------------------------------------------------------