มาดูหลักเกณฑ์การขอจดทะเบียนกับคณะกรรมการอาหารและกันครับ ว่าผลิตภัณฑ์หรือสินค้าของเราต้องเป็นอย่างไร
สินค้าที่จะมาขอจดทะเบียนกับคณะกรรมการอาหารและยานั้น จะต้องเคยมีประวัติการสั่งซื้อแล้ว เท่านั้น ถ้าหากว่ามีการเปลี่ยนแปลงโรงงานผลิต ก็ต้องให้โรงงานที่รับผลิตรายต่อไป เป็นผู้ไปขอจดทะเบียนใหม่อีกครั้ง
สำหรับสิ่งของและเอกสารที่ต้องเตรียมไปมีดังนี้ครับ
1. ลักษณะของภาชนะที่ใส่บรรจุ เช่น กระปุก หรือขวดปั้มสุญญากาศ หรือหลอด และรูปถ่ายสินค้า สามารถยื่นขอต่อครั้งได้ไม่เกิน 10 รายการ
2. เอกสารที่ใช้คือ
2.1 สำเนาบัตรประชาชนผู้มีอำนาจ 2 ชุด
2.2 สำเนาทะเบียนบ้านผู้มีอำนาจ 2 ชุด
2.3 สำเนาหนังสือรับรองการจดทะเบียนนิติบุคคล (เฉพาะกรณีที่เป็นนิติบุคคลนะครับ ใช้ 2 ชุด)
2.3 สำเนา ภพ.20 (เฉพาะนิติบุคคล )
2.4 สำเนาทะเบียนบ้านของสถานที่ผลิตสินค้า ( ใช้เฉพาะที่อยู่ไม่ตรงกับที่อยู่ของผู้มีอำนาจนะครับ)
2.5 แผนที่ตั้งของร้าน หรือ บริษัท
2.6 แผนผังภายในร้า หรือ บริษัท ระบุสถานที่ผลิต สถานที่บรรจุ และสถานที่เก็บสินค้าให้ชัดเจน
2.7 สินค้าตัวอย่าง พร้อม ฉลาก 2 ชุด
สิ่งที่ควรรู้เกี่ยวกับการขอทดเบียนกับคณะกรรมการอาหารและยา
1. การยื่นขอครั้งแรก ผู้ประกอบการจะต้องไปยื่นที่ อย. เท่านั้นเพราะจะต้องเสียค่าธรรมเนียม ส่วนปีต่อๆไปทาง อย. จะส่งหนังสือมาแจ้งให้ไปชำระตามธนาคารที่กำหนด โดยจะเสียค่าธรรมเนียมรายปีละ 1,000 บาท
2. หากได้ขึ้นทะเบียนเป็นผู้ประกอบการแล้ว คุณจะถูกสุ่มตรวจสถานที่จริง เพราะฉะนั้นแผนที่และแผนผังจะต้องถูกต้องและตรงตามที่ยื่นไว้
3. ถ้าหากว่าคุณเป็นคนซื้อสินค้ามาเพื่อมาบรรจุเอง อันนี้คุณสามารถจดเป็นผู้แบ่งบรรจุที่ข้างฉลากของผู้ผลิตได้
4. หลังจากที่ได้รับเลขที่ใบแจ้งเรียบร้อยแล้ว ต้องนำเลขที่ใบแจ้งระบุบนฉลาก พร้แมทั้งมีรายละเอียดฉลากครบถ้วนตามกฏเกณฑ์ของ อย.
5. สำหรับคนที่นำสินค้ามาบรรจุเองก็ควรบรรจุให้เป็นไปตามหลัหอย่างถูกต้อง ทั้งเรื่องความสะอาด วิธีการแบ่งบรรจุ เพราะถ้ามีการร้องเรียนจากผู้ซื้อขึ้นมาละก็ สินค้าดังกล่าวจุถูกเพิงถอนนออกจากทะเบียนจดแจ้งและผู้ประกอบการได้
6. หากต้องการตรวจสอบเลขใบรับแจ้งที่ได้รับกับเวบไซต์ของ อย. ในส้วนของชื่อผู้ประกอบการ จะเป็นชื่อของลูกค้าที่ขอรหัสผู้ประกอบการไว้
7. ท่านสามารถตรวจสอบเลขที่ใบรับแจ้งของตนเองได้ที่เวบไซต์ของ อย. ในหมวดของ "สืบค้นข้อมูลผลิตภัณฑ์"
สำหรับใครที่กำลังจะไปขอจดทะเบียนกับคณะกรรมการอาหารและยา ก็คงพอจะมีความรู้มากพอสมควรและนะครับ หากอยากรู้รายละเอียดที่มากกว่ากว่านี้ ก็ไปที่เวบไซต์ของ อย. เลยก็ได้ครับ http://www.fda.moph.go.th/
------------------------------------------------------------------------------
ขอบคุณข้อมูลจาก สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา
กำลังจะขอจดอยู่พอดีเลยคับ ขอบคุณสำหรับข้อมูลคับ
ตอบลบ