สารบัญเว็บไซต์

สารบัญเว็บไซต์ !

ส่วนประกอบที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอาง

       รู้ไว้ดีกว่าไม่รู้ครับว่า  ส่วนประกอบที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอาง นั้นมีอะไรบ้าง เผื่อว่าวันดีคืนดีดันไปเจอเข้าจะได้รู้ว่านี่มันคือสารอันตราย หรือส่วนประกอบที่ห้ามมีในเครื่องสำอาง จะได้ไม่เผลอใช้ไปแล้วจะเกิดอาการแพ้ตามมาทีหลัง ซึ่งในปัจจุบันนี้เชื่อว่ายังมีสารต้องห้ามปนเปื้อนอยู่ ส่วนประกอบที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอางมีอะไรบัางมาดูกันครับ

      ส่วนประกอบที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอางอย่างแรกเลยก็คือ
       1. สารไฮโดรควิโนน มีคุณสมบัติในการฟอกสีผิว แต่กระทรวงสาธารณสุขได้วิจัยออกมาแล้วว่าสารนี้จพให้เกิดอาการระคายเคือง ผิวหน้าคล้ำ มีจุดด่างขาวที่ใบหน้า และจะเป็นฝ้าถาวรที่รักษาไม่หาย นอกจากนี้ยังพบว่าสารนี้ มีฤทธิ์ก่อให้เกิดมะเร็ง(จากการทดลองโดยใช้หนูทดลอง) สารไฮโดรควิโนนถูกกำหนดเป็นส่วนประกอบที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอางสำหรับใบหน้าตั้งแต่ปีพ.ศ.2539 ตามพระราชบัญญัติเครื่องสำอาง พ.ศ.2535 แต่ว่าสารชนิดนี้สามารถใช้เป็นสูตรตำหรับของยาชนิดครีมที่ระดับความเข้มข้นตัองไม่เกิน 2-4% เท่านั้นครับ
       2.  กรดเรทิโนอิก เป็นสารที่ทำให้เกิดการแบ่งตัวของเซลผิวหนัง และหลุดลอกได้ จึงช่วยให้สิวเสี้ยนและผิวหนังที่หยาบกร้านหลุดลอกได้ง่ายขึ้น หน้าดูใสผุดผ่อง แต่ว่าความเป็นพิษของสารนี้ก็คือ จะทำให้หน้าแดวและเกิดอาการแสบร้อนถึงขั้นรุนแรง ระคายเคือง อักเสบ แพ้แสงแดดและแสงไฟได้ง่าย แถมยังเป็นอันตรายต่อทารกในครรภ์ด้วยนะครับ 
กรดเรทิโนอิก ถูกกำนหดมห้เป็นส่วนประกอบที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอาง ตั้งแต่ปีพ.ศ.2532  กรดเรทิโนอิกสามารถใบ้เป็นสารออกฤทธิ์ในสูตรตำหรับยาชนิดครีมที่ความเข้มข้นต้องไม่เกิน 0.01-0.1% เท่านั้นครับ
       3. ปรอทแอมโมเนีย ชื่อนี้คงเคยได้ยินผ่านหูกันอยู่บ้างนะครับ  สารชนิดนี้จะทำงานออกฤทธิ์รบกวนเอนไซม์ ทำให้ลดการสร้างาีผิวเมนลานินลง จึงทำให้ผิวดูขาวขึ้น นอกจากนี้ปรอทแอมโมเนียยังสามารถฆ่าเชื้อแบคทีเรียชนิด Staphylococcus จึงป้องกันสิวได้ด้วยครับ แต่ความอันตรายของสารชนิดนี้คือ  สามารถทำลายไต ระบบประสาท เยื่อบุและทางเดินหายใจ  และหากใช้ติดต่อกันเป็นเวลนานจะทำให้เกิดการสะสมของปรอทในผิวหนัง และดูดซึมเข้าสู่กระแสโลหิต ทำมห้ตับและไตอักเสบ เกิดโรคโลหิตจางทำลายสีผิวหนังและเล็บมือ ทางเดินปัสสาวะอักเสบ ผิวจะบางขึ้นเรื่อยๆและทำให้เกิดการแพ้หรือเป็นแผลเป็นได้
       ปรอทแอมโมเนียจัดเป็นส่วนประกอบที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอางตั้งแต่ปีพ.ศ.2532 ในปัจจุบันนี้เชืือว่ายังคงมีสารทั้งสามตัวนี้ปนเปื้อนอยู่ในเครื่องสำอางที่เกินกำหนด ซึ่งสารที่พบมากที่สุดคือปรอทแอมโมเนียครับ รองลงมาก็จะเป็นสารไฮโดรควิโนน และกรดเรทิโนอิกตามลำดับ

ตัวอย่างวิดีโอทดสอบเครื่องสำอางที่ผสมปรอทแอมโมเนีย




       แม้ว่าส่วนประกอบที่ห้ามใช้ในเครื่องสำอางทั้งสามตัวนี้จะมีประโยชน์และใช้ได้ผลมากขนาดไหน แต่ผลร้ายที่ตามมาก็มีไม่แพ้กัน (มากกว่าด้วย ซ้ำ) ดังนั้นแล้วทั้งผู้ขายและผู้ใช้เครื่องสำอางควรจะศึกษาข้อมูลของผลิตภัณฑ์ให้ดีก่อนนะครับว่ามีสารเหล่านี้ปนเปือนอยู่มากน้อยแค่ไหน เพื่อจะได้ไม่เป็นอันตราย ส่วนผู้ขายเองก็ควรจะมีความซื่อสัตย์และความจริงใจต่อลูกค้า เพราะมันจะมีผลว่าธุรกิจของท่านจะดีหรือจะเจ๋งนั่นเองครับ




+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++


ขอบคุณข้อมูลจากกระทรวงสาธารณสุข
วิดีโอจาก rain rainny








2 ความคิดเห็น:

  1. ขอบคุณข้อมูลดีๆที่นำมาให้อ่านค่่

    ตอบลบ