สารบัญเว็บไซต์

สารบัญเว็บไซต์ !

ออมเงินหรือลงทุน

       ตัวเลขของบัญชีเงินฝากในธนาคารพาณิชย์พบว่าในเดือนมีนาคมปีพ.ศ.2556 อยู่ที่ 81,647,602 บัญชี ในขณะที่ประชากรของประเทศมีแค่ประมาณ 66 ล้านคนเท่านั้น โดยเฉลี่ยแสดงว่าคนไทยเกือบจะทุกคนจะมีบัญชีเงินฝากกับธนาคาร และมีหลายคนที่มีมากกว่า 1 บัญชี ตัวเลขนี้ยังแสดงให้เห็นว่า คนอาจจะชอบการลงทุนที่มีความปลอดภัยสูง หรือไม่มีความรู้ในการลงทุนประเภทอื่นเลย

       ในปัจจุบันคาดว่าจำนวนคนลงทุนในตลาดหุ้นไม่น่าจะเกิน 1 ล้านคน ซึ่งเป็นที่ทราบดีว่า ตลาดหุ้นได้เข้ามามีบทบทาในชีวิตคนไทยมากขึ้น และก็ได้ทำให้คนไทยจำนวนไม่น้อยประสบกับความสำเร็จและความล้มเหลว ข้อแตกต่างข้อหนึ่งที่เห็นได้ชัดคือ คนรวยมักจะมีความรู้มากกว่าคนทั่วไป และคนรวยก็มักจะรู้ถึงวิธีที่จะนำความรู้เหล่านั้นมาใช้เพื่อการจัดการกับความเสี่ยง  เราจะสามารถรู้วิธีที่จะสามารถลงทุนให้ได้ผลตอบแทนที่ดี ได้อย่างไร  ลองอ่านแล้วคิดดูนะครับว่าถ้าเป็นเราในตอนนี้เราจะเลือกออมเงินหรือลงทุน
       ในปัจจุบันมีคนฝากเงินประจำกับธนาคารเป็นจำนวนมาก เพราะคนส่วนใหญ่มักจะคิดว่า เงินฝากประจำจะปลอดภัย แต่หารู้ไม่ว่าชีวิตคุณอาจจะไม่ปลอดภัย
       สำหรับคนจบใหม่ที่อายุซัก 20 ปีถ้ายังไม่ซื้อบ้าน ไม่ซื้อรถ และไม่มีแฟน โดยทั่วไปก็น่าจะใช้เวลาซักประมาณ 10 ปี กว่าจะได้เงิน 1 ล้านบาท สรุปว่ากว่าจะได้เงิน 1 ล้านบาท อายุก็ปาเข้าไป 30 ปีแล้ว และหากนำเงินจำนวนนี้ไปฝากประจำกับธนาคารก็คงได้ดอกเบี้ยประัมาณ 3% ซึ่งจะใช้เวลาประมาณ 24 ปี เงิน 1 ล้านบาทจึงจะกลายเป็น 2 ล้านบาท ซึึ่งตอนนั้นอายุก็วิ่งไปถึง 54 ปีเข้าไปแล้ว แม้ว่าอาจจะมีเงินออมเงินฝากตามเข้ามาอีกหลัวงจากอายุ 30 ปีไปแล้ว ผมก็คิดว่า การออมเงินในลักษณะนี้ คงไปไม่รอดแน่ๆ และชีวิตก็อาจจะต้องลำบากในช่วงบั้นปลายชีวิต ดังนั้นคนที่จบใหม่และคนที่ทำงานมาหลายปีแล้ว คงจะต้องรีบเรียนรู้เรื่องการลงทุน ควรจะต้องเรียนรู้ว่าจะออมเงินหรือลงทุน ก่อนที่กาลเวลาจะมาบังคับคุณให้ต้องเรียนรู้
       ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่ผมอยอากฝากไว้ให้เป็นข้อคิดสักเล็กน้อยเกี่ยวการออมเงินหรือลงทุน นั่นก็คือ คนทั่วไปมักจะมีปัญหาเรื่องเงินอยู่บ่อยๆ ซึ่งเป็นสาเหตุให้มักจะละเลยเรื่องสุขภาพ หลังจากนั้นก็ตามมาด้วยโรคภัยไข้เจ็บในระยะยาว การเจ็บไข้ได้ป่วยก็จะทวีความรุนแนงมากขึ้นแะมากขึ้น จนทำให้ค่ารักษาพยาบาลสูงเกินกว่าที่จะรับผิดชอบได้ และชีวิตของคนทั่วไปหลายต่อหลายคนก็มักจะจากไปก่อนเวลาอันควร นั่นเป็นเพราะมีเงินไม่เพียงพอต่อการรักษา

       คราวนี้มาดูทางฝั่งของคนรวยบ้างนะครับ คนรวยมักจะใช้เงินซื้อสุขภาพ เพราะคนรวยมักจะมีเงินเหลือใช้ เงินเหลือใช้โดยส่วนมากก็มาจากจากการที่เขาได้ออมเงินแล้วนำเงินไปลงทุน เมื่อประสบความสำเร็จแล้ว เขาจึงมีเงินส่วนเกินความจำเป็นเป็นจำนวนมาก เขาจึงทุ่มเทเงินที่มี ลงไปในการรักษาพยาบาล จึงทำให้สามารถรักษาโรคต่างๆได้ ก่อนที่มันจะมาทำร้ายสุขภาพของเขา และนั่นคือเหตุผลที่ว่าทำไมคนรวยถึงมีอายุยืนกว่าคนจน

       นอกจากนี้คนรวยยังรู้ดีว่าเขามีทางเลือกที่จะทำเพื่อครอบครัวและทำเพื่อเงินได้พร้อมๆกันทั้งสองทางเลือก
       มีคนจำนวนไม่น้อยที่ไม่ค่อยประสบความสำเร็จทางธุรกิจ และมักจะชอบพูดแก้ตัวว่า "ผมเลือกครอบครัวมากกว่าจะเลือกธุรกิจ"   ในโลกของความเป็นจริง ทั้งสองสิ่งนี้เป็นตัวเลือกจริงหรือ?  หากเราเลือกครอบครัวแล้วเราจะเลือกธุรกิจไม่ได้จริงหรือ?
       ผมมีตัวอย่างของชายคนนึงที่ชื่อ โรเบิร์ด คิโยซากิ  เขาสามารถยืนยันได้ว่า "คนรวยสามารถเลือกได้ทั้งครอบครัว และธุรกิจ"   ในปีพ.ศ.2517 หลังจากที่คิโยซากิ ได้ลาออกจากการเป็นทหารเรือแล้ว เขาก็เริ่มต้นชีวิตด้วยการขายเครื่องถ่ายเอกสาร  ต่อมาเขาก็ตั้งบริษัทเป็นของตัวเองเพื่อจำหน่ายกระเป๋าเงินกันน้ำ แต่ไม่นานนัก บริษัทก็ต้องล้มละลาย หลังจากนั้นเขาก็เปิดบริษัทขายเสื้อยืดอีก และลงท้ายด้วยการล้มละลายเช่นกัน แต่การล้มละลายครั้งหลังนี้รุนแรงกว่าครั้งแรกมาก เพราะมันได้ทำให้เขากลายเป็นคนไม่มีบ้าน และต้องไปพักอยู่กับแฟนของเขา ซึ่งภายหลังก็คือภรรยาของเขามีชื่อว่า คิม คิโยซากิ นั่นเอง
       ในปีพ.ศ.2537 โรเบิร์ด คิโยซากิ ได้เริ่มลงทุนใหม่ทางด้านอสังหาริมทรัพย์ในประเทศออสเตรเลีย และประสบความสำเร็จเป็นอย่างดี เขาและคิมซึ่งในเวลานั้นเขาทั้งสองได้แต่งานกันแล้ว ได้ช่วยเหลือกัน และพยายามสร้างธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ของเขาให้เติบใหญ่
       หลังจากนั้นไม่นานเขาก็โด่งดังอย่างกระหึ่ม เมื่อเขาได้แต่งหนังสือที่มีชื่อว่า "พ่อรวยสอนลูก(Rich
dad, Poor dad)" หนังสือนี้ได้พูดถึงการลงทุนของเขาและภรรยา หนังสือเล่มนี้ขายดีไปทั่วโลก...
     
       ไม่ว่าจะเป็นการออมเงินหรือลงทุนก็ตาม ล้วนแต่มีทั้งข้อดีและข้อเสียอยู่ในตัวสองแบบ ดังนั้นผู้ที่จะลงทุนทำอะไรซักอย่างควรศึกษาข้อมูลเรื่องนั้นให้เป็นอย่างดี ควรเริ่มต้นจากการค้นคว้าหาอ่าน และสอบถามให้เยอะๆก่อนนะครับ และควรทำอย่างใจเย็นๆ เพื่อที่การลงทุนจะได้ประสบความสำเร็จ




เรียนรู้การสร้างรายได้เพิ่มเติมได้ที่เว็บนี้ครับ การลงทุน การสร้างรายได้ การใช้ชีวิต

--------------------------------------------------------------------------------------------------------


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น