1. ชนิดกระตุ้นการหลุดลอกของเซลผิวชั้นนอก
ชนิดนี้ไม่ได้ลดการสร้างเม็ดสีโดยตรง แต่จะช่วยลอกเซลเก่าที่ตายไปแล้ว จึงทำให้ผิวดูขาวขึ้น ส่วนเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมจากพวกกรดของผลไม้ ที่มีจำหน่ายในท้องตลาด กฎหมายควบคุมให้มีความเข้มข้นได้ไม่เกิน 15% ถ้าหากสูงกว่านี้ ต้องอยู่ภายใต้การดูแลของแพทย์เท่านั้น เพราะอาจทำให้เกิดการลอกจนแสบไหม้ได้ สาเหตุมาจากความเข้มข้นสูง จึงถูกนำไปใช้ทำ AHA Treatment ทาแล้วล้างออกเลย ไม่ได้ทิ้งไว้ตลอดคืนเหมือนกรดต่ำๆ โดยจะทำแค่อาทิตย์ละครั้งเพื่อให้มีการหลุดลอกของเซลผิวชั้นนอกเร็วขึ้น ซึ่งแพทย์จะเป็นคนเลือกความเข้มข้นตวามความเหมาะสมของแต่ละคน
ชนิดของครีมหน้าขาวชนิดที่ 2 คือ ชนิดยับยั้งการทำงานของเม็ดสีตามธรรมชาติ
เซลล์สร้างเม็ดสี (Melanocytes) ที่อยู่ในชั้นล่างสุดของหนังกำพร้า เมื่อได้รับการกระตุ้นจากรังสียูวีจากแสงแดด จะทำให้เซลล์สร้างเม็ดสี (Melanin) เพิ่มขึ้นจึงทำให้ผิวพรรณดูคล้ำลง และเม็ดสีที่สร้างขึ้นนี้เองจะค่อยๆเคลื่อนตัวขยับขึ้นไปชั้นบน เพราะฉะนั้นแล้วสารที่จะทำให้ผิวขาวมีอยู่ด้วยกันหลายชนิดเช่น
กรดโคจิก(Kojic Acld)
กรดชนิดนี้สร้างขึ้นจากเชื้อราชนิดหนึ่ง พบได้ตามธรรมชาติชอบเจริญเติบโตอยู่ในธัญพืช เช่น ถั่ว แป้งในเต้าเจี๊ยว ซีอิ้ว เหล้าขาว สาเก เหล่านี้มีส่วนผสมของโคจิกทั้งนั้น เมื่อนำมาผสมในครีมหน้าขาว ก็พบว่าสามารถออกฤทธิ์เฉพาะที่ได้ดีพอสมควร ในปีค.ศ.1994 จึงอณุญาติให้ใช้กรดนี้ในประเทศญี่ปุ่นเป็นประเทศแรกโดยมีความเข้มข้นที่ 1% ปัจจุบันใช้กันอย่างแพร่หลาย แต่พบว่าอัตรการแพ้ก็ถือว่าสูงเพราะถ้ามีความเข้มข้นสูงขึ้น ก็จะเกิดอาการแพ้ เช่น อาจจะทำให้เกิดผื่นบวมแดง คัน มักพบภายในเวลา 48-72 ชั่วโมงหลังใช้ ยิ่งความเข้มสูงก็มีโอกาสแพ้ได้ง่ายขึ้น
อาร์บูติน และสารธรรมชาติสกัดจากชะเอมเทศ
สารชนิดนี้จะช่วยออกฤทธิ์ไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ไทโรซิเนส ในเซลที่สร้างเม็ดสี เช่นเดียวกับกรดโคจิก แต่พบผู้ที่แพ้อาร์บูตินน้อยมาก
สารธรรมชาติจากชาเขียว , สารสกัดจากเปลือสนฝรั่งเศส , หรือสารสกัดจากเม็ดองุ่น
ชาเขียวจะให้สาร Epigallocatechin (EGCG) ทั้งหมดเป็นสารในกลุ่ม โพลีฟีนอล มีคุณสมบัติเป็นแอนติอ๊อกซิเด้น ป้องกะนการเกิดเอกซิเดชั่นจากสารอนุมูลอิสระตัวร้าย ที่ทำให้เกิดวามเสื่อมของเซลล์ต่างๆ รวมทั้งเซลล์ผิวและเซลล์สร้างเม็ดสีด้วย เมื่อเซลล์สร้างเม็ดสีเสื่อมลงก็จะทำให้เกิดเป็นฝ้า กระ หรือรอยด่างดำ
วิตามินซี และวิตามินบี3
วิตามินซีนั้นมีฤทธิ์เป็นได้ทั้งแอนติอ๊อกซิเดนท์ และมีส่วนช่วยในการสร้างเม็ดสีให้น้อยลง จึงทำให้ผิวพรรณดูขาวใสขึ้นได้ มีให้เลือกหลายรูปแบบทั้งชนิดครีม โลชั่นทาผิว โฟม และแบบผงเขย่าผสมกับตัวทำละลายก่อนใช้ เป็นต้น ส่วนงิตามินบี3 นั้น จะออกฤทธิ์ยับยั้งการเคลื่อตัวของเม็ดสีที่ถูกสร้างขึ้นเพื่อจะส่งขึ้นไปผิวหนังชั้นบน จึงทำให้มองเห็นรอยดำได้ไม่ชัดเจน
ชนิดของครีมหน้าขาวที่ออกฤทธิืเพื่อช่วยยับยั้งการทำงานของเม็ดสีควรจะเห็นผลประมาณ 4-6 สัปดาห์ ส่วนเครื่องสำอางที่มีส่วนผสมของสารซึ่งจะเข้าไปช่วยกระบวนการหลุดลอกของเซลล์ผิว ควรจะเห็นผลชัดเจนเมื่อเวลาผ่านไปประมาณ 1-2 สัปดาห์
ชนิดของครีมหน้าขาวทั้งหลายเหล่านี้ ท่านผู้ขายควรจะต้องทำการติดตามลูกค้าของท่านดูนะครับว่าใช้แล้วเห็นผลมากน้อยแค่ไหน ให้ลูกค้าทำพรีวิวมาให้ดูก็ได้ครับ เพื่อเราจะได้มั่นในสินค้าที่เราขาย และผู้ใช้เองจะได้มั้นใจในสิ่งที่เค้ากำลังใช้ เป็นการส่งผลให้สินค้าของเราขายดียิ่งขึ้น และยังเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เราได้ติดตามเอาใจใส่ลูกค้าหลังการขาย เพื่อเพิ่มความไว้วางใจด้วยครับ
+++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++++
ข้อมูลอ้างอิงจากDr.Cosmatics.com
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น